fbpx

DENIM VOCAB คนรักยีนส์ต้องรู้

1

ความเป็นมาของยีนส์.. ยีนส์ถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกที่เมืองเจโนวา เมืองท่าของประเทศอิตาลี โดยจุดประสงค์เพื่อกะลาสีชาวเจนัว ไว้ใส่เพื่อรองรับต่อสภาพแห้งหรือเปียกได้ดี และสามารถถกขากางเกงได้ขณะอยู่บนดาดฟ้าเรือ ผ้ายีนส์ที่ทำขึ้นมาในนครเจโนอา กลางศตวรรษที่ 19 ซึ่งทางประเทศอังกฤษสั่งนำเข้าผ้าชนิดนี้ ด้วยความทึ่งในความทนทาน และเรียกผ้านี้รวมๆว่า Fustian ซึ่งแปลว่าผ้าสีเนื้อหยาบ ต่อมาระหว่างที่เรือขนส่งสินค้าเดินทางจากอิตาลีมาอังกฤษ ต้องผ่านประเทศฝรั่งเศส ซึ่งคนเมืองเรียกเมืองเจนัวว่า แชน (Gênes) และเรียกสินค้าจากเจนัวว่า ชีน (Jene) ซึ่งภายหลังเปลี่ยนมาเป็น ชอง (Jean) พอมาถึงอังกฤษ ชาวอังกฤษจะอ่านคำว่า Jean ว่า จีน หรือยีน เช่นเดียวกับคนอเมริกันที่พูดภาษาอังกฤษ ซึ่งเมื่อคนนำผ้ายีนส์นี้ไปตัดกางเกง ก็ต้องเป็นคำที่เติม s จึงเรียกว่า Jeans ยีนส์ ส่วนคำว่า เดนิม มาจาก serge de Nimes นั้นหมายถึง ผ้าทอขนสัตว์หรือผ้าไหม (serge) จากเมืองนีม (de Nimes) ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส แต่ความหมายในปัจจุบันนั้นเฉพาะเจาะจงไปที่ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากผ้ายีนส์ เกิดจากผ้าฝ้ายทอทแยง (Twill) และย้อมสีอินดิโก้ (สีครามหรือสียีนส์นั่นเอง)
ที่มา: https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A2%E0%B8%B5%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B9%8C

2
SELVEDGE (เซล’วิจ)
คือชื่อเรียกของผ้าริม โดยถูกแปลงมาจากคำว่า Self-edge มีความหมายว่าริมของตัวผ้าเอง ซึ่งได้จากเครื่องทอผ้าและเทคนิคแบบเก่า ที่เรียกว่า Shuttle Loom ที่เป็นเครื่องทอผ้าหน้าแคบ การทอนี้จะต้องมีการควบคุมคุณภาพที่สูงกว่าการทอผ้าทั่วไป ซึ่งในการผลิตยีนส์ผ้า Selvedge ครึ่งหนึ่งจะได้จำนวนที่ไม่มาก ทำให้ต้นทุนการผลิตสูง และตรงบริเวณริมขอบผ้าจะมีด้ายเย็บเพื่อไม่ให้ผ้าลุ่ยออกมา โดยสีของริมจะขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ผลิตยีนส์ อาจจะเป็นสีแดง หรือที่เราเรียกติดปากกันว่าริมแดง และอาจจะเป็นสีอื่นๆ เช่น ริมส้ม ริมเหลือง หรือริมน้ำตาลก็ได้
จากการทอผ้าในลักษณะนี้ จึงทำให้กางเกงยีนส์ที่ผลิตจากผ้าริมมีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากกว่ากางเกงยีนส์ที่ถูกทอจากผ้ายีนส์ทั่ว ๆ ไป ด้วยเหตุนี้ ผ้า Selvedge จึงเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงการเป็นยีนส์คุณภาพสูงที่มีความพรีเมี่ยมในตัวเอง
3

CHAIN STITCHES (เชน สติช)
คือการเย็บตะเข็บ หรือปลายขาแบบลูกโซ่(เชน สติช) เป็นการเย็บแบบโบราณ โดยอาศัยหลักการในการเย็บกระสอบในอดีตมาเย็บเป็นกางเกงยีนส์ และทำให้เกิด Roping Effect (การบิดตัวของด้ายที่ปลายขา)ทำให้ได้รอยเฟดที่สวยงาม และมีความแข็งแรง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของกางเกงยีนส์สไตล์วินเทจ ทำให้คอยีนส์ตัวจริงมักจะเลือกการเย็บปลายขาแบบลูกโซ่ และการเย็บแบบนี้ถือเป็นการเย็บแบบโบราณ ต้องใช้เครื่องจักรที่เย็บลักษณะนี้โดยเฉพาะ

4

WATCH POCKET (วอช พอคคึท)
กระเป๋าลับ (ตามภาษาช่าง) หรือกระเป๋าใส่นาฬิกาพกพา เป็นกระเป๋าช่องเล็กๆ ที่ดูเหมือนจะใส่อะไรไม่ได้เลย กลับมีที่มาที่ไป ที่แสดงถึงการผลิตสินค้าตามการใช้งานจริงๆ ของผู้ใช้งานมาตั้งแต่ช่วงปี 1800 สมัยนั้น กางเกงยีนส์เป็นที่นิยมในหมู่คาวบอย และคนงานในเหมืองแร่ และตอนนั้นยังไม่มีนาฬิกาข้อมือ มีเพียงนาฬิกาพกพา หรือนาฬิการูปทรงกลม ที่มีห่วงโซ่คล้องเอาไว้ เจ้ากระเป๋าลับนี้ จึงมีไว้เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายแก่ผู้สวมใส่ เพื่อไว้สำหรับการใส่ POCKET WATCH โดยเฉพาะขึ้นมา

5

RIVET (รีเวท)
หมุดตอกยึด บางคนอาจจะคิดว่าติดไว้เพียงแค่เพื่อความสวยงาม แต่จริงๆแล้ว เจ้าหมุดเล็กๆตัวนี้มีประโยชน์มากกว่าที่เราคิดเยอะเลยค่ะ เนื่องจากว่าตำแหน่งที่เราตอกรีเวทไปนั้นเป็นส่วนพับเข้ามุมของผ้ายีนส์ที่ค่อนข้างหนา เจ้ารีเวทตัวนี้จึงมีหน้าที่ยึด เพื่อป้องกันยีนส์จากการสึกหรอ และฉีกขาดของตะเข็บนั่นเอง

6.1

Honeycomb (ฮันนี่คอมบ์)
คือรอยเฟดจากการใส่กางเกงผ้าดิบบริเวณด้านหลังของหัวเข่า ที่มีลักษณะเหมือนรังผึ้งแบบ 3 มิติ ซึ่งรอยเฟดของกางเกงแต่ละตัว จะไม่เหมือนกัน เพราะรอยเฟดนั้น จะเกิดขึ้นตามพฤติกรรมการสวมใส่ หรือกิจกรรมที่ผู้ใส่แต่ละท่านทำ อันเป็นเสน่ห์เฉพาะตัวที่ลอกเลียนแบบกันไม่ได้

7

STONE WASH (สโตน วอช)
ขั้นตอนกรรมวิธีของเทคนิคที่จะช่วยให้เนื้อผ้ายีนส์มีหน้าตาแตกต่างจากยีนส์ฟอกในยุคก่อนๆ คือ การนำยีนส์ไปปั่นรวมกับหิน Pumice จึงเรียกวิธีการฟอกแบบนี้ว่า Stone Wash หิน Pumice เกิดจากเย็นตัวของลาวาภูเขาไฟ อุดมไปด้วยสารซิลิกา มีน้ำหนักเบา รูพรุน และสามารถลอยน้ำได้ ทำให้ผิวสัมผัสอันหยาบและขุรขระของหินขัดถูไปกับเนื้อผ้าในเครื่องปั่นขนาดใหญ่ วิธีนี้นอกจากจะทำให้ยีนส์มีสภาพเนื้อผ้าและสีที่เปลี่ยนไปจากเดิมราวกับเหมือนเกิดจากร่องรอยของประสบการณ์จริง ยังทำให้เนื้อผ้านุ่มและยืดหยุ่นมากขึ้น ด้วยเทคนิคดังกล่าวจะใช้เพียงน้ำในการชะล้างคราบหินบนกางเกงและก้อนหินในการสร้างลวดลาย ซึ่งต้องใช้เวลานานพอที่ทำให้เกิดเฟดทั่วบนกางเกง หรือในบางอุตสาหกรรมจะใช้น้ำยาทำให้ผ้านุ่มในตอนท้ายเพื่อที่แน่ใจว่าเนื้อผ้านุ่มยิ่งขึ้น เนื่องจากตัวหินนี้เองที่จะไปขัดผิวเนื้อผ้าเพื่อให้ได้รูปทรง ลวดลายและสีอย่างที่ต้องการ รวมถึงความนุ่มของผ้าด้วย ขนาดและน้ำหนักของหินจึงเป็นเรื่องสำคัญในการกรรมวิธีนี้การเลือกขนาดใหญ่ กลาง หรือเล็ก อยู่ที่น้ำหนักของผ้าที่ผู้ผลิตต้องการจะผลิต ถ้าผ้าที่มีน้ำหนักมากก็ต้องใช้หินก้อนใหญ่ เป็นต้น
ที่มา: https://www.wministry.com/th/how-stone-washed-denim-originated/

8

COMFORT STRETCH (คอมฟอร์ท สเตรช)
คือกางเกงยีนส์ผ้าผสมที่เพิ่มผ้ายืด หรือเส้นใย Lycra เข้าไปเพื่อให้เกิดความยืดหยุ่นสูง ซึ่งยีนส์ผ้ายืดอาจจะมาในรูปแบบ “ผ้าดิบ” หรือ “ผ้าฟอก” ก็ได้
ข้อดีของผ้ายืด คือทำให้เราสวมใส่กางเกงได้สบาย ไม่อึดอัด และลดไซส์ได้เยอะขึ้น มักใช้ในยีนส์ทรงแคบ รัดรูป เช่น Skinny

9

PATCHWORK (แพชเวิร์ค)
คือการนำผ้าหลายๆชนิด หลากหลายลวดลาย มาปะติดปะต่อกัน เพื่อให้เกิดชิ้นงานใหม่ที่สวยงาม เทคนิคที่นำมาใช้กับเสื้อผ้าส่วนใหญ่จะเรียกกว่า cutting paper and fabric patch (คือการตัดผ้าตามแบบและนำมาเย็บติดกับเสื้อผ้า) ซึ่งสเน่ห์ของงาน Patchwork คือการพิถีพิถันในคัดสรร และการ Matching ผ้าชนิดต่างๆ เพื่อให้เสื้อผ้า หรือกางเกงนั้นๆ เกิดความสวยงาม มีเอกลักษณ์และลงตัวที่สุด

Shopping Cart